Connect with us

Uncategorized

ชาวอีสานเฮ

Advertisement

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง 2 หรือ อีสานใต้ จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ



ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จังหวัดอุบลราชธานี หนึ่งในโครงการสำคัญที่ภาคเอกชนเสนอให้ภาครัฐช่วยผลักดันเป็นโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ ตำบลนากระแซง และ ตำบลทุ่งเทิง อำเภอเดชะอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ขนาดพื้นที่ 2300 ไร่

เพื่อสร้างฐานการผลิตเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน CLMV และเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในระดับนานาชาติ มีโครงการรถไฟทางคู่และท่าอากาศยานอุบลราชธานีที่สามารถเชื่อมโยงการค้าใน 4 ประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน


ล่าสุด การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวถือว่ามีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดย บริษัท จังหวัดอุบลราชธานีอินดัสตรี้ จำกัด ในฐานะผู้ดำเนินโครงการ ได้ดึงพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไคไก แอดไวซอรี่ จำกัด บริษัท เวลเนสไลฟ์โปรเจ็ค ไทยแลนด์ จำกัด รวมทั้งบริษัท เอเชี่ยนไดนามิค คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ร่วมจัดตั้งนิคมฯ ด้วยงบการลงทุนกว่า 2700 ล้านบาท

นายณัฐวัฒน์ เลิศสุรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จังหวัดอุบลราชธานีอินดัสตรี้ จำกัด เผยออกมาว่า เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทได้ร่วมเซ็นชื่อในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นเป็นที่แรกใน จังหวัดอุบลราชธานี ไปแล้ว ตามแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี 2563 กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2565
สำหรับนิคมฯ แห่งนี้ จะใช้เงินลงทุนพัฒนาราว 2700 ล้านบาท บนพื้นที่ 2300 ไร่ เพื่อรองรับกรุ๊ปอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ภาครัฐพยายามผลักดันให้เกิดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมเทคโนชีวภาพ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวข้ามแดน อุตสาหกรรมการบริการ อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ, อุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการเกษตร อุตสาหกรรมเครื่องมือและยานยนต์ที่ใช้ในการเกษตร ฯลฯ

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอปรับเปลี่ยนผังเมืองการใช้ประโยชน์ที่ดินจากสีเขียวเป็นสีม่วงกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ควบคู่กับการจัดทำรายงานศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อีไอเอ และหลังจากนั้นจะยื่นเรื่องไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อจัดตั้งเป็นนิคมร่วมดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ นิคมฯ ดังกล่าวยังจะเป็นฐานการเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมมรกต กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และก็เวียดนาม ที่นักลงทุนต่างๆจะสามารถกระจายสินค้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่ภูมิภาคอื่นๆได้อย่างสะดวก เนื่องจาก จังหวัดอุบลราชธานี นั้น ยอดเยี่ยมในจังหวัดเขตอีสานใต้ที่มีความเหมาะสมและก็มีศักยภาพ มีประชากรกว่า 1800000 ล้านคน และก็หากรวมกับจังหวัดในอีสานใต้จะมีประชากรกว่า 10 ล้านคน

การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานีขึ้น นอกจากจะเป็นการยกระดับ จังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านอุตสาหกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องข้างต้นแล้ว นิคมฯ ที่นี้ยังมีหน้าที่ในฐานะเป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติกส์อันทันสมัย ที่พรั่งพร้อมไปด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์และแหล่งรวบรวมนวัตกรรมใหม่ๆจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกด้วย
นายณัฐวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมลงทุนโดยตรงจากบริษัทภายในและต่างประเทศ จึงถือเป็นโครงการตัวอย่างในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แท้จริง เพราะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจด้านในแคว้น กระตุ้นการจ้างงาน แล้วก็รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจแล้วก็สังคม ซึ่งสามารถสร้างค่าการลงทุนให้กับภูมิภาคได้อีกจำนวนมาก

โดยเชื่อว่าภายหลังการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานีขึ้นมา จะกระตุ้นให้เกิดกระแสหมุนวนในระบบเศรษฐกิจในเขตไม่ต่ำกว่า 20000 ล้านบาท และก่อให้เกิดการสร้างงานราว 20000 อัตรา ได้ภายในปี 2665

Advertisement
Advertisement

error: Content is protected !!